วันก่อนทางทีมงานบทความสุขภาพได้มีโอกาศ ดูทีวี เห็นมีคุณไมค์ ภิรมพร เป็นพรีเซนเตอร์เกี่ยวกับ โรคพยาธิใบไม้ตับ ซึ่งคนอีสานและคนภาคเหนือเป็นกันซะส่วนมากวันนี้เลยอยากนำข่าวข้อมูลที่ได้จากเว็บ สสส มาให้ได้ดูได้ชมกันครับ ขอบคุณข้อมูลจากเว็บ สสส ด้วยครับ
โรคพยาธิใบไม้ตับเป็นปัญหาสำคัญในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคมะเร็งท่อน้ำดีและก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมากแก่คนอีสาน ทั้งในด้านแรงงาน เศรษฐกิจ และสังคม อันจะส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ
นายสุรชัย เบ้าจรรยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุขพร้อมด้วย นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค เปิดมหกรรมรณรงค์สัญจร การกำจัดโรคพยาธิใบไม้ตับ ลดมะเร็งท่อน้ำดี ปี 2556 ภายใต้แนวคิด สุขถ้วนหน้า กินปลาสุก
นายสุรชัย กล่าวว่า โรคพยาธิใบไม้ตับเป็นปัญหาสำคัญในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคมะเร็งท่อน้ำดีและก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมากแก่คนอีสาน ทั้งในด้านแรงงาน เศรษฐกิจ และสังคม อันจะส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศจำเป็นที่จะต้องแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนเพื่อให้คนอีสานได้เห็นความสำคัญของสุขภาพและความปลอดภัยของชีวิตมากกว่าประเพณีการบริโภคที่มีมายาวนานซึ่งเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง
สำหรับปัจจุบัน มีผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีรายใหม่เพิ่มมากขึ้น โดยพบว่ามีผู้เสียชีวิตด้วยมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ำดีทั่วประเทศ จำนวน 14,314 ราย มากสุดเป็นภาคอีสาน 7,593 ราย พบมากในอายุ 45-55 ปี ซึ่งเป็นวัยทำงาน โดยเข้าใจผิดว่ากินอาหารปรุงสุกๆ ดิบๆ ช่วยเพิ่มพลังให้ร่างกาย ทั้งนี้จังหวัดอุดรธานี มีผู้เสียชีวิตด้วยมะเร็งท่อน้ำดี 48.1 ต่อประชากรแสนคน
นายสุรชัย กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญและเร่งกำจัดพยาธิใบไม้ตับ ลดมะเร็งท่อน้ำดี ตั้งเป้าในระยะเวลา 8 ปี ในปี พ.ศ.2556-2564 ลดการป่วยจากพยาธิใบไม้ตับให้เหลือไม่เกินร้อยละ 5 ลดอัตราตายจากมะเร็งท่อน้ำดีให้เหลือไม่เกิน 20 ต่อประชากรแสนคน
ทั้งนี้ ได้กำหนดยุทธศาสตร์เร่งด่วน 5 ข้อ ได้แก่ 1.ป้องกันและคัดกรอง 2.วินิจฉัยและดูแลรักษา 3.พัฒนาคุณภาพชีวิต 4.ติดตามและประเมินผล 5.วิจัยและพัฒนา โดยมีนโยบายให้ทุกภาคส่วนร่วมกันทำงานอย่างต่อเนื่อง ร่วมใจกันสร้างวัฒนธรรมในการกินสุก ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมค่านิยมกินปลาปรุงดิบ เร่งตรวจค้นหาผู้เป็นโรคพยาธิใบไม้ตับ เพื่อคัดกรองค้นหาผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีระยะแรกซึ่งหากรู้เร็วอาจไม่เสียชีวิต
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น