สวัสดีครับเช้าวันศุกร์
ที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖ (วันเสาร์น้อย) สิ้นเดือนนี่หว่าวันนี้ ดีใจ ได้ทั้งศุกร์(สุข)
ได้ทั้งเงิน ขอเกริ่นแค่นี้ก่อนมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า หลังจากวันก่อนทาง ทีมงานบทความสุขภาพ ได้นำเสนอข่าวสุขภาพ
เกี่ยวกับเจ้าสมุนไพรไทยที่ มีชื่อว่า กวาวเครือขาว ไปแล้วนั้น
วันนี้มาถึงคิว เจ้าสมุนไพร จีนที่มีชื่อว่า เห็ดหลินจือ บ้าง
ชื่อก็บอกเลยว่าเป็นของแผ่นดินไทยเมืองจีนนั่นเองครับ โดยเจ้าสมุนไพรตัวนี้
มีชื่อภาษาจีน ว่า Ling Zhi และทางทีมงานบทความสุขภาพ คิดว่าท่านผู้อ่านทั้งหลายคงรู้จักเจ้าตัวสมุนไพรนี้กันดีอยู่แล้วหละ
เพราะว่าเครื่องดื่ม หรืออาหารยี่ห้อดังๆมักนำมาเป็นส่วนผสม และเป็นตัวชูโรงสินค้า
เรามาดูข้อมูลเกี่ยวกับสมุนไพร เห็ดหลินจือกันครับว่าเป็นไปเป็นมาอย่างไร โดยเจ้า
ตัวเห็ดหลินจือนี้ เป็นสมุนไพรจีน
ที่มีประวัติการใช้มายาวนานกว่า 2000 ปี (เกิดทันกันไหมครับท่านผู้อ่าน
เหอๆ) โดยในคัมภีร์จีนโบราณ ที่มีชื่อว่า “เสินหนงเปินเฉ่า”
ซึ่งเป็นคัมภีร์เก่าแก่ที่สุดของเมืองจีนที่มีคนนับถือมาก
ได้จัดเห็ดหลินจือ เป็นสมุนไพรชั้นสูงครับ มีสรรพคุณบำรุงร่างกาย เป็นยาอายุวัฒนะ
ที่มีความปลอดภัยสูง ทานได้ระยะยาว(ยาสมุนไพรมักไม่มีผลตกค้างหนะครับ)
โดยเห็ดหลินจือในธรรมชาติพบมากมายหลายสายพันธ์ โดยผมขอจำแนกตามสีและสรรพคุณ ได้อย่างน้อย 6 สายพันธุ์ คือ เห็ดหลินจือแดง ดำ เขียว ขาว เหลือง และม่วง ซึ่งจากการศึกษาวิจัย เป็นที่ยอมรับกันว่า เห็ดหลินจือแดง มีสรรพคุณเป็นประโยชน์ต่อร่างกายกว้างขวางกว่าเห็ดหลินจือชนิดอื่นๆ ครับ
โดยเห็ดหลินจือในธรรมชาติพบมากมายหลายสายพันธ์ โดยผมขอจำแนกตามสีและสรรพคุณ ได้อย่างน้อย 6 สายพันธุ์ คือ เห็ดหลินจือแดง ดำ เขียว ขาว เหลือง และม่วง ซึ่งจากการศึกษาวิจัย เป็นที่ยอมรับกันว่า เห็ดหลินจือแดง มีสรรพคุณเป็นประโยชน์ต่อร่างกายกว้างขวางกว่าเห็ดหลินจือชนิดอื่นๆ ครับ
เห็ดหลินจือแดง
(Genaderma
iucidum (Fr.) Karst.) เป็นราขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง มีรูปร่างคล้ายไต
สีแดงอมน้ำตาลถึงสีม่วงน้ำตาล มีลายเป็นวงแหวน ผิวมันวาว
มีลักษณะแข็งเหมือนเนื้อไม้ เนื้อออกสีขาวนวลถึง สีน้ำตาลอ่อนไต้หมวกเห็ดจะเป็นแผ่นสีขาว
หรือสีเหลืองนวลปิดครีบเห็ดไว้ ภายในมีรูพรุนเล็กๆ จำนวนมากสำหรับบรรจุสปอร์
วันนี้พูดถึงเจ้าตัวเห็ดหลินจือไว้เพียงเท่านี้ก่อนครับยังไงคราวหน้าจะมาคุยต่อเรื่อง
สรรพคุณ และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องครับผม
ขอบคุณภาพประกอบจากเว็บชีวิติชีวา
ขอบคุณภาพประกอบจากเว็บชีวิติชีวา
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น